เที่ยววันหยุดเชียงคาน

เที่ยวเชียงคาน วันหยุด

หลังจากลงจากภูกระดึงมาแล้ว พวกเรายังไม่รอช้าจัดไป... เชียงคานกันต่อ ที่ๆใครก็อยากไป เราก็อยากไปกะเข้าด้วย อยากเห็นเองสักครั้งซิว่าจะ น่ารักสักแค่ไหน แม้ว่าจะต้องคลานเที่ยว (ขาเจ็บกันทุกคน) คงจะเป็นทริป เชียงคลาน” ลงถึงตีนภูกระดึง 3โมงครึ่ง รีบออกเดินทางทันที เพราะครั้งนี้เหมารถตู้กันมา เพื่อเชียงคลานนี้แหละที่เราจะไปพักสงบ พักสมอง พักขาที่เจ็บปวด พักหัวใจที่เต้นแรงผิดจังหวะ(เหนื่อยมากจากภูกระดึง) ...ขอชิวบ้างอะไรบ้าง

การ เดินทางจากอุทยานแห่งชาติภูกระดึง อีกประมาณ 130 กิโลเมตรก็จะถึงเชียงคาน เรากะเวลาไว้ประมาณ 2ชั่วโมง เดี๋ยวค่อยไปอาบน้ำที่รีสอร์ท แล้วค่อยออกมาเดินชิวๆ ขอหลับกันไปก่อน ปล่อยให้พี่คนขับช่วยพาพวกเราไปถึงที่หมาย


                         ภาพ: ระหว่างทางไปเชียงคาน ดวงอาทิตยืกำลังตก สวยจัง

ประมาณ 5โมงครึ่งเรามาถึงเชียงคาน เข้าพักกันที่ เฮือนไม้ศรีเชียงคาน ..เป็นความประทับใจแรก รู้สึกว่าคุณมาป้าดูแลเราเหมือนลูกหลาน ที่ยังอยู่บนถนนคนเดินด้วย สบายล่ะทีนี่ ขออาบน้ำให้สบายใจก่อนเดี๋ยวมาเที่ยวชมความคึกคักของเชียงคานกัน ว่าสเน่ห์มันอยู่ตรงไหน ..นัดกับทุกคนว่า ประมาณ 2ทุ่มเรามาเจอกันที่ ที่พัก แล้วจะไปกินข้าวพร้อมกัน ช่วงเวลานี้ใครใคร่จะพัก ก็พัก ใครใคร่เดินก็เดิน

 

 

 

 

แต่รู้สึกว่าทุกคนจะมีกำลังใจเดิน แม้ว่าจะเจ็บขากันทุกคน ด้วยความคึกคักของถนนคนเดิน

เชียงคาน เป็นเมืองที่มีผังเมืองไม่ซับซ้อนนัก คือ ถนนจะยาวขนานไปกับแม่น้ำโขง การเดินจากสุดด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่งก้เหนื่อยเอาการ ผมลองเดินดูแล้วเหนื่อยมาก นี้ขนาดยังไม่เริ่มช๊อปนะเนี่ย เดี๋ยวช่วงเดินกลับจะเริ่มแวะชมสินค้าบางล่ะ ..ลืมบอกไปว่าวันที่เรามาพักเชียงคานเป็นช่วงหยุดยาว ตรงกับวันที่5 ธันวาคมพอดี คนจึงเยอะมากเป็นพิเศษ ดีที่เราจองห้องพักไว้ล่วงหน้ากันเป็นเดือน ไม่งั้นก็คงไม่ได้ที่พักใจกลางขนาดนี้

หน้าวัดศรีคุนเมืองมีกิจกรรมการแสดงวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวมากทีเดียว

 

 

บ้าน เรือนไม้ยังคงมีเสน่ห์ อยู่เสมอสำหรับเชียงคาน ร้านค้ามากมายต่างก็นำสินค้าน่ารักอกมาขายกัน ที่เห็นจะเตะตาสำหรับผมคงเป็นพวกลายผ้าขาวม้า ที่เอามาทำสินค้าได้หลากหลายชวนซื้อจริงๆ ตั้งแต่เสื้อกระโปง รองเท้า กระเป๋า ลายผ้าขาวม้าน่าจะมาแรงนะ

อีกลายที่ชวนให้สะดุดตา คือการเล่นคำกับคำว่า “เลย” และคำว่า “เชียงคาน” ที่มีคำน่ารักเยอะแยะสกรีนอยู่บนเสื้อเพื่อเป็นของฝากของที่ระลึก เช่น รักแล้วรักเลย , จำไว้เลยเชียงคาน, ระวังคาน

ระหว่างทางมีนิทรรศการ “หยุดเขื่อนไชยะบุรี” ปกป้องวิถีแม่น้ำโขง ให้ชมกันด้วย แวะชมกันนิดไว้เป็นความรู้

ร้าน ของที่ระลึกดูจะเยอะสุด เจอคนเชียงคานเล่าว่า หลายร้านมาเปิดใหม่ปีนี้ เป็นที่ทำกิจการอยู่ที่ ปาย มาเปิด ดูว่าจะหลายร้านอยู่ ...ได้ฟังอย่างนี้แล้วก็เห็นว่าธุรกิจที่ต่อเนื่องกับการท่องเที่ยวเกี่ยว กับของที่ระลึกนี้กำลังบูมอย่างมาก ต้องสังเกตุที่สินค้า หลายร้านเป็นสินค้าลายเดียวกัน ซ้ำไปมา รับกันมา จะมีไม่กี่ร้านที่ทำเป็นลายของตัวเอง ไม่มีขายที่ไหน ชอบแบบไหนก็ลองเลือกดูครับ

ร้านอาหาร ของกิน บนถนนคนเดินนี้ก็เยอะอยู่ไม่น้อย หลายร้านเป็นบรรยากาศริมโขงด้วย ...แต่ร้านที่เราจองไว้ ขอบอกมีดนตรีสดด้วย

คน แน่นมากอ่ะ ผมคงเดินไปได้ไม่ไกลแล้วล่ะ ต้องเดินกลับก่อน นัดทุกคนไว้เพื่อจะกินข้าว เพิ่งเดินจากซอย6 มาถึงซอย 18 นี้ก็เกือบสองทุ่มล่ะ เดี๋ยวกินข้าวเสร็จมาเดินใหม่ แล้วพรุ่งนี้มีต่อมาเดินช๊อปอีกรอบ

นัดกัน2ทุ่ม เดินกันเลยเวลา ไปนิด แล้วเราก็เดินไปกินข้าวที่ร้านซอยสอง ชื่อว่า ”ซอยสอง” ตั้งอยู่ที่ซอยสอง แต่ระหว่างซอย6ถึงซอย2นี้มันก็ไกลใช้ได้นะ แต่ก็Ok ..จองโต๊ะไว้เกรงจะไม่มีที่นั่งเพราะเป็นวันหยุดคนเยอะมาก พอมาถึงก็เยอะจริงๆ ต้องรออยู่พักใหญ่ อาหารก็มาช้า แต่กลบด้วยบรรยากาศดีๆ เพลงเพราะๆ บริการก็ดีเหมือนญาติ คือปล่อยให้ญาติรอได้ ...ล้อเล่นนะ พออาหารมาก็อร่อยมากเลยล่ะ ถ้าไม่ใช่ช่วงวันหยุดร้านเขาก็คงพอดีๆล่ะครับ เหมาะกับการมาสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อมากินเหล้าบ้างอะไรบ้าง พอดีพวกเรามากินข้าว

 

 

อย่า กระนั้นเลย กินข้าวกันไปเกือบ 5ทุ่มแล้ว นั่งฟังเพลงชิวเลย ...ลุกดีกว่าจะต้องกลับไปช๊อปต่อเดี๋ยวร้านปิดหมด ...เดินกลับตามคาดครับกำลังทยอยปิดจริงๆ ไม่เป็นไรดูไว้ก่อน พรุ่งนี้มาใหม่ ร้านเปิดอีกทีสายๆ ...ไปเดินเล่นริมโขงแทน ดูจะยังคึกอยู่ เพราะมีหลายร้านหลายวงยังนั่งกินชิวๆริมโขงกันอยู่ โดนชวนกินอยู่หลายวง อากาศก็กำลังเย็นสบายๆ

พรุ่งนี้ขอเช้าอีกวันตื่นสักตี5 นัดกันจะไปดูพระอาทิตย์ขึ้น และทะเลหมอกภูทอก ตี5ครึ่งล้อหมุน Ok นะทุกคน ...เมื่อทุกคนรับปากก็แยกย้ายกันนอนล่ะครับ พรุ่งนี้เจอกัน

ตี5แล้ว ตื่นนนนนนน.....รีบแต่งตัว....ไปถูทอกกัน รถตู้มารับ (สำหรับใครที่ไม่มีรถตู้ไป ในเชียงคานเขามีบริการรถขึ้นภูทอกด้วยครับ 100บาท/คน บริการแบบนี้เห็นอยู่ทั่วไปตามรีสอร์ทครับ) จริงๆภูทอกอยู่ห่างออกไปประมา10กิโลเท่านั้นเอง ไม่ไกลมาก

พอเรามาถึงตีนภู เขาก็จะมีที่จอดรถ ไม่อนุญาตให้นำรถส่วนตัวขึ้น เนื่องจากที่คับแคบ แต่เขาจะมีรถสองแถวไว้บริการ ในราคาคนล่ะ 25 บาท

 

 

                                                  บรรยากาศบนภูทอกคนเยอะมาก

 

                                       ดวงอาทิตย์กำลังขึ้น สวยงามมากบนภูทอก

 

ร้าน ที่เล็งไว้ว่าจะกินตอนแรกคือสุวรรณรามา แต่เต็มครับ บรรยากาศดีตรงเพลงเก่านี้แหละยามเช้า งั้นเปลี่ยนร้านก็ได้ ...หาอยู่หลายร้าน เพราะหยุดยาว คนเยอะแน่นไปหมดทุกร้านมาจบลงที่ร้านชื่อว่า “ลุก”...อ่ะชื่อแปลกจะมากินแล้วทำไม่ต้อง “ลุก”ด้วยดูไม่ค่อยจะเข้ากับร้านอาหาร แต่ไม่เป็นไรสั่งก่อนแล้วกัน ปรากฏว่า ไม่มีคนรับOrder แล้วคนเก็บโต๊ะก็หน้าบึงเหมือนหมดกำลังใจทำงานแล้ว หรือว่าจะต้อง ลุก จริงๆไม่เป็นไร คนคงเยอะนะ สุดท้ายทำมันเองเลยจดorder ส่งให้ครัว ตักปาท่องโก๋เอง แล้วโจ๊กยามเช้าของเราก็มา กินพอปะทังไปก่อนเดียวกะว่าจะไปกินอีกหลายร้าน

กินเสร็จไปเยี่ยมชม ตลาดกันบ้าง เห็นว่ามีของเด็ดของอร่อย “ปาท่องโก๋ยัดไส้” ที่เดียวของโลก แห่งเดียวในเชียงคาน เลยจัดไปน่าตาน่ากินมาก ชุดล่ะ 30 บาท

ภาพ : ปาท่องโก๋ยัดไส้

 

 

ยังมีเวลาให้ทุกคนได้เดินช๊อปปิ้งกันอีก แล้วสัก 11โมงเราค่อยเดินทางกลับกัน


ภาพ: บรรยากาศตอนเช้าๆที่เชียงคาน


ภาพ: ของกินเล่นยามเช้าที่เชียงคาน


ภาพ: กำแพงที่ใครๆก็ชอบมาถ่ายรูป

ผม เองก็ไปซื้อเสื้อลายผ้าขาวม้ามาตัว น้องในกลุ่มซื้อ กระเป๋าตังค์ที่เป็นลายสานด้วยไม้ไผ่ ดูดีมากเลยล่ะ งานฝีมือแบบคุณภาพมาก ยังซื้อชุดกันเปื้อนลายผ้าขาวม้ามาด้วย แล้วก็ขอกินแหนมคลุกอีกสักจาน ก่อนกลับมานั่งชิวๆ ที่เฮือนไม้ศรีเชียงคาน รอทุกคน ก่อนจะไปเที่ยวแก่งคุดคู้ กันต่อ

ภาพ : แก่งคุดคู้


ภาพ: ทำมะพร้าวแก้วกันสดๆร้อนๆ ที่แก่งคุดคู้

ที่ แก่งคุดคู้ห่างจากเชียงคานนิดเดียวประมาณ 10 กิโลเท่านั้นเอง ก้เลยเป็นจุดแวะของพวกเราด้วย โดยเฉพาะท่านที่ชอบมะพร้าวแก้ว แนะนำให้มาซื้ที่นี่ เขาทำกันเห็นๆ จะๆ เป็นแหล่งผลิตกันเลย ได้ซื้อมากับเขาด้วย เพราะเจ็บใจเมือวานซื้อในเชียงคานครึ่งกิโล 120 บาท แต่พอมาที่แก่งคุดคู้ ครึ่งกิโล 90 บาท แบบทำร้อนๆตักใส่ถุงเลย ..เลยจัดมาอีกถุง แล้วเราก็กลับกรุงเทพกันเลย ...สนุกที่สุด ประทับใจเชียงคานกันทุกคนทริปนี้ แม้ว่าจะต้อง คลานช๊อป ที่เชียงคาน